เลอค่าด้วยเทคนิคอันล้ำหน้า ทั้งยังสง่างาม และเปี่ยมด้วยนวัตกรรมนำสมัย เรือนเวลาที่นำมาซึ่งความกระจ่างกลางห้วงลึก Rolex เปิดตัว Oyster Perpetual Rolex Deepsea เวอร์ชันดั้งเดิมที่ออกแบบมาเพื่อความโดดเด่นเป็นเลิศใต้ท้องทะเลลึก
แหวนอัดประสิทธิภาพสูงภายในระบบ Ringlock รังสรรค์จากเซรามิกสีน้ำเงิน ซึ่งถือเป็นนวัตกรรมทางเทคนิคที่เป็นแนวทางใหม่ในการนำวัสดุชนิดนี้มาใช้ผลิตตัวเรือนนาฬิกา แหวน Cerachrom คือผลลัพธ์จากการเป็นผู้นำในกระบวนการผลิต และแสดงถึงความมหัศจรรย์ในด้านวิศวกรรมความเที่ยงตรง
นาฬิกา Rolex Deepsea มาพร้อมกับกลไกคาลิเบอร์ 3235 ซึ่งเป็นกลไกการทำงานระดับแนวหน้าของเทคโนโลยีการผลิตนาฬิกา โดยมาพร้อมคุณสมบัติในการแสดงวันที่ ชั่วโมง นาที และวินาที
ดังเช่นนาฬิกาของ Rolex ทุกเรือน Oyster Perpetual Rolex Deepsea มาพร้อมการรับรอง Superlative Chronometer เพื่อรับประกันถึงสมรรถนะอันเป็นเลิศเมื่อสวมใส่บนข้อมือ
Rolex Deepsea ได้พิสูจน์ให้เห็นอย่างประจักษ์ถึงความสามารถด้านนวัตกรรมของ Rolex นับตั้งแต่การเปิดตัวในปี 2008 นาฬิกาสำหรับนักดำน้ำลึกเรือนนี้สามารถกันน้ำได้ถึงระดับความลึก 3,900 เมตร (12,800 ฟุต) โดยมาพร้อมการติดตั้งระบบ Ringlock ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมตัวเรือนที่เปี่ยมด้วยเอกลักษณ์ และทำให้เรือนเวลาสามารถทนต่อแรงดันที่ระดับความลึกสุดขีดนี้ได้
ยามที่อยู่ใต้น้ำลึก ความสามารถในการอ่านเวลาได้อย่างมั่นใจเป็นปัจจัยที่สำคัญยิ่งต่อการอยู่รอด ความทุ่มเทอย่างหนักถูกใช้ไปกับการทำให้ Rolex Deepsea สามารถอ่านเวลาได้อย่างชัดเจน โดยนาฬิกาสำหรับนักดำน้ำมืออาชีพเรือนนี้มีดีไซน์ที่เรียบง่ายและมาพร้อมกับหน้าปัดโครมาไลท์ และมีเครื่องหมายบอกชั่วโมงและเข็มนาฬิกาที่มีขนาดและรูปร่างแตกต่างกันอย่างชัดเจนอย่างสามเหลี่ยม วงกลม และสี่เหลี่ยม และได้รับการเติมหรือเคลือบด้วยสารเรืองแสงที่จะเรืองแสงสีฟ้าเป็นระยะเวลายาวนาน เครื่องหมายทรงสามเหลี่ยมที่มาร์คเกอร์ “ศูนย์” บนขอบตัวเรือนยังสามารถมองเห็นได้ในความมืดเนื่องจากแคปซูลที่ฝังอยู่บรรจุสารเรืองแสงชนิดเดียวกันด้วย
Rolex เป็นผู้นำในการพัฒนาเซรามิกชนิดพิเศษเพื่อรังสรรค์ขอบตัวเรือนแบบโมโนบล็อกและขอบหน้าปัด Rolex ได้พัฒนาความเชี่ยวชาญเฉพาะตัวและกระบวนการผลิตอันเป็นนวัตกรรมที่ทำให้แบรนด์สามารถผลิตส่วนประกอบเซรามิกเหล่านี้ได้อย่างเป็นอิสระ
ขอบตัวเรือนหมุนได้ทิศทางเดียวของ Rolex Deepsea ติดตั้งขอบหน้าปัด Cerachrom พร้อมขั้นบอกเวลา 60 นาทีจากเซรามิกสีน้ำเงิน ซึ่งจะช่วยให้นักดำน้ำสามารถตรวจสอบเวลาขณะอยู่ใต้น้ำได้อย่างปลอดภัย แหวนอัดประสิทธิภาพสูงของระบบ Ringlock ก็ทำจากเซรามิกสีน้ำเงินเช่นกัน ซึ่งถือเป็นครั้งแรกของชิ้นส่วนนี้ โดยตัวเลขและเครื่องหมายอื่นๆ แบบหล่อและฝังของขอบตัวเรือน Cerachrom รวมถึงข้อความสลักบนแหวนจะได้รับการเคลือบด้วยทองคำด้วย PVD (กระบวนการเคลือบด้วยไอเชิงฟิสิกส์)
ตัวเรือน Oyster ขนาด 44 มม. ของ Rolex Deepsea รับประกันการกันน้ำได้ถึงระดับความลึก 3,900 เมตร (12,800 ฟุต) นับเป็นที่สุดทั้งในแง่ของของความทนทานและความน่าเชื่อถือ
Rolex Deepsea ได้รับประโยชน์จากระบบ Ringlock ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมตัวเรือนที่ผ่านการพัฒนาโดย Rolex ระบบนี้ประกอบด้วยองค์ประกอบที่เกี่ยวเนื่องกันสามอย่างคือ คริสตัลแซฟไฟร์ทรงโดมที่มีความหนาเพียงเล็กน้อย แหวนอัดประสิทธิภาพสูงซึ่งทนทานต่อแรงดันน้ำ และตัวเรือนด้านหลังที่ทำจากไทเทเนียม RLX
Rolex Deepsea ประกอบด้วยคาลิเบอร์ 3255 ที่มาพร้อมระบบขึ้นลานอัตโนมัติผ่านโรเตอร์ Perpetual และด้วยสถาปัตยกรรมกระปุกลานและประสิทธิภาพชั้นเยี่ยมของชุดกลไกปล่อยจักร ทำให้พลังงานสำรองของคาลิเบอร์เพิ่มขึ้นเป็น 70 ชั่วโมงโดยประมาณ
Rolex Deepsea รุ่นทองคำ 18 กะรัตมาพร้อมสายนาฬิกา Oyster สายนาฬิกาโลหะแบบข้อต่อสามชิ้นนี้พัฒนาขึ้นในช่วงปลายทศวรรษ 1930 และขึ้นชื่อในด้านความทนทาน ทั้งยังเป็นสายนาฬิกาที่มีความเป็นสากลมากที่สุดในคอลเล็กชัน Oyster Perpetual
สายนาฬิกา Oyster ของ Rolex Deepsea รุ่นใหม่มาพร้อมกับชุดตัวล็อกนิรภัย Oysterlock แบบพับได้ เพื่อป้องกันนาฬิกาไม่ให้เลื่อนเปิดได้เอง มันยังทำงานร่วมกับระบบขยายสาย Rolex Glidelock ที่พัฒนาโดยแบรนด์และผ่านการจดสิทธิบัตรเช่นกัน โดยประกอบด้วยกลไกฟันจักรที่อยู่ใต้ฝาครอบชุดตัวล็อกที่เอื้อให้ผู้สวมใส่สามารถปรับความยาวของสายโลหะได้อย่างสะดวก โดยไม่ต้องใช้อุปกรณ์ช่วย สายนาฬิกา Oyster ของ Rolex Deepsea รุ่นทองคำ 18 กะรัตยังมาพร้อมก้านสอดเซรามิกสิทธิบัตรที่ออกแบบโดยทางแบรนด์เอง และติดตั้งอยู่ภายในข้อสายนาฬิกาเพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นสวมสบายบนข้อมือและให้อายุการใช้งานที่ยาวนาน
ดังเช่นนาฬิกาของ Rolex ทุกเรือน Oyster Perpetual Rolex Deepsea ได้รับการรับรอง Superlative Chronometer ตามนิยามใหม่ที่ Rolex กำหนดขึ้นในปี 2015 สถานะดังกล่าวเป็นเครื่องยืนยันว่านาฬิกาทุกเรือนที่ออกจากโรงผลิตได้ผ่านการทดสอบที่ควบคุมโดย Rolex ภายในห้องปฏิบัติการตามเกณฑ์ที่กำหนด โดยเป็นไปตามการรับรองกลไกการทำงานอย่างเป็นทางการโดย Swiss Official Chronometer Testing Institute (COSC)